เด็กน้อยกับหมาตัวเล็ก ๆ
เจ้าของร้านตอกป้ายติดไว้เหนือประตู มีข้อความว่า มีลูกสุนัขขายนี่เป็นวิธีดึงดูดเด็กเล็ก ๆ ได้อย่างดี เด็กผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวใต้ป้ายแผ่นนั้น และถามว่า "ลูกหมาที่ขายราคาเท่าไรครับ"
"มีหลายราคา ตั้งแต่ 30 ไปจนถึง 50 เหรียญ" เจ้าของร้านตอบ
หนูน้อยล้วงเข้าไปในกระเป๋าและควักสตางค์ออกมา ผมมีอยู่ 2.37 เหรียญเอง "ขอผมดูพวกมันหน่อยได้ไหมครับ"
เจ้าของร้านยิ้มแล้วผิวปาก เจ้าเลดี้วิ่งออกมาจากเฉลียงข้างร้านพร้อมกับลูกสุนัขขนฟูอีก 5 ตัว หนึ่งในนั้นเดินตามมาช้า ๆ หนูน้อยสนใจลูกหมาตัวนี้ทันที เห็นได้ชัดว่ามันเดินลากขาเหมือนเป็นหมาพิการ
"หมาตัวเล็ก ๆ นั่นเป็นอะไรครับ "
เจ้าของร้านบอกว่าสัตวแพทย์ตรวจเจ้าลูกหมาตัวนี้แล้วพบว่ามันไม่มีสะโพก มันจะต้องเดินขากะเผลกและจะพิการไปตลอดชีวิต
เด็กชายตื่นเต้นขึ้นมาทันที "ผมขอซื้อลูกหมาตัวนี้ได้ไหมฮะ"
เจ้าของร้านตอบว่า อย่าเลย หนูคงไม่อยากได้ลูกหมาตัวนี้หรอก แต่ถ้าหนูอยากได้จริง ๆ ล่ะก็ ฉันจะยกให้ .....?
!@!@# หนูน้อยเริ่มไม่พอใจ ?!@!@#......เขาจ้องหน้าเจ้าของร้านพร้อมกับชี้นิ้วพูดว่า
“ ผมไม่ต้องการให้คุณยกมันให้ผมฟรี ๆ หมาตัวนี้มีค่ามากเท่ากับตัวอื่น ๆ ทั้งหมด และผมก็จะจ่ายให้คุณเต็มราคาด้วย แต่ผมจะให้คุณไปก่อน 2.37 เหรียญ และจะผ่อนให้เดือนละ 50 เซ็นต์จนกว่าจะครบ "
เจ้าของร้านยังค้านอีกว่า หนูไม่อยากได้ลูกหมาตัวนี้หรอก มันวิ่งไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ และเล่นกับหนูเหมือนกับลูกหมาตัวอื่น ๆ ก็ไม่ได้
ถึงตอนนี้ หนูน้อยจึงนั่งลงและถกขากางเกงให้เจ้าของร้านเห็นขาข้างซ้ายที่ลีบเล็ก และมีเหล็กแท่งใหญ่พยุงเอาไว้ เขาเงยหน้ามองเจ้าของร้านและพูดนุ่ม ๆว่า
"นี่ไง ผมเองก็วิ่งไม่ได้เหมือนกัน และลูกหมาตัวนี้ก็คงต้องการใครสักคนที่เข้าใจมัน"
เจ้าของร้าน ?????????
49 ความคิดเห็น:
เป็นบทความที่ดีมากคะ
ทำให้เรารู้ว่าคนที่พิการเค้าก็มีคุณค่าเทียบเท่าคนอื่นเหมือนกัน^^
น.ส.ณัฐภรณ์ วงษ์เสน ม.6/6 เลขที่ 11 ก.
ทำให้เข้าใจว่าทั้งคนและสัตว์ที่พิการหรือไม่มีโอกาสเทียบเท่าคนทั่วๆไป ก็มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเท่าๆกับผู้อื่นนั่นก็คือคุณค่าในตัวเอง
สอนให้เห็นถึงคุณค่าของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ จะเป็นปกติ หรือพิการ ก็มีคุณค่าเหมือนกัน ฉะนั้นจึงอย่าละเลยพวกเขาไป
หนูคิดว่า มันเป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ
เพราะขนาดหมาพิการเขายังเอาไปเลี้ยงดู
ก็สะท้อนให้เห็นถึงสังคมแหละค่ะ
ว่าคนที่ใกล้ชิดเรา เราควรต้องดูแลขนาดไหน
น.ส. กัลย์สุดา จุลประเสริฐ ม.6/3 เลขที่ 9ก
ได้อ่านบทความนี้แล้ว
ทำให้ทราบซึ้งมาก
ที่ว่า สิ่งที่มีคุณค่าที่สุดของสิ่งมีชีวิต
คือมีคนที่เข้าใจ ไม่รังเกียจ ฯ
เหมือนกับสุนัขตัวนั้น ที่ขนาดตัวมันพิการ
แต่ก็ยังมีคนเห็นคุณค่า กว่าตัวอื่นๆที่สมบูรณ์กว่า
-----*-----
นายพีรภัทร แสงสว่าง ม.6/3 เลขที่ 6ข
ซึ้งมากๆค่ะ เป็นบทความที่ดี
สะท้อนให้เห็นหลายแง่ความคิด
คนและสัตว์ก็เหมือนๆกัน ต่างกันแค่พูดได้กับไม่ได้
จะปกติดี หรือพิการ ก็เป็นสิ่งมีชีวิต
คนเราถ้าคอยดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันจะเป็นการดีมาก ควรดูแลคนที่เรารักให้ดี ร่วมทั้งสัตว์เลี้ยงด้วย
นางสาวเนตรทราย เทียมสัมฤทธิ์ ม.6/4 เลขที่ 13ข.
อ่านแล้วรู้สึกเศร้ามากเลย
แต่ก็แฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ ทำให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าเท่าเทียมกัน แล้วก็มีคุณค่าอยู่ในตัว ถึงคนอื่นจะมองไม่เห็นก็เถอะ จะต้องมีคนเห็นสักคน
น.ส.วีรวรรณ สุวรรณกิจ ม.6/6 เลขที่ 19 ข
เป็นบทความที่ดีมาก
เพราะสอนให้เรารู้ว่า สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งต่างๆที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ปกติ หรือแตกต่างจากสิ่งอื่นๆ ก็มีค่าคุณค่าดีเทียบเท่ากับสิ่งที่สมบูรณ์กว่าหรือปกติกว่าได้ ถ้าทุกคนนึกถึงคุณค่าของมัน
นายณัฐกร ทิพเกษร ม.6/3 เลขที่ 1ก
บทความนี้ซึ้งมากเลยค่ะ.. ไม่ว่าใครก็ต่างต้องการคนที่เข้าใจ
ไม่ว่าจะปกติ หรือพิการ คนหรือสัตว์ แล้วก็ทำให้เรารู้ว่าคุณค่าของทุกๆคนย่อมเท่ากัน อยู่ที่เราจะแสดงออกมาได้ดีแค่ไหน ^^
น.ส.ปัฐมพร สมสกุล ชั้นม.6/4 เลขที่ 16ก
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ต่างก็มีคุณค่าของตัวมันเอง ดังนั้นคนบน โลกนี้ไม่ว่าจะจน จะรวย สวย ขี้เหร่ อย่างไรก็ตามพวกเราต่างก็มีค่าด้วยกันทั้งนั้น
จงอย่าเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอ่กว่า
น.ส.ปรัชญา จันทร์ผ่อง ม.6/8 เลขที่ 14ข
เป็นบทความที่ดีมากค่ะ มีข้อคิดที่ดีมาก ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นคนหรือสัตว์ก็ต้องการความรักความเอาใจใส่จากใครสักคนเหมือนกัน
เป็นบทความที่ดีมากบทความหนึ่งที่เดียว
สอนให้เรารู้ว่า
ทุกชีวิตมีค่า ไม่ว่าจะเป็นชีวิตใคร
เราไม่ควรรังเกืยจ ในสิ่งที่เขาเป็น
และ ไม่นำสิ่งที่ด้อยของเขาไปเปรียบเทียบ
อีกทั้งเราไม่ควรเอาเปรียบ ใคร
น.ส.ชุดาพร นพเก้า ม.6/4 เลขที่ 13ก
ซึ้งมากๆๆเลยค่ะ ทำให้รู้ว่าคนเราไม่ว่าจะพิการแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
น.ส. ปรีชญา ศรีแสงอ่อน ม.6/10 เลขที่16ข.
ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็มีชีวิตและจิตใจ ดังนั้นไม่ว่าจะ
พิการหรือครบ32ประการเราก็คนเหมือนกัน คนเราทุก
คนย่อมมีคุณค่าในตัวของเราเอง ^6^
นาย เอกชัย เกตุสุนทร ม.6/10 เลขที่ 11ข.
เราไม่ควรมองข้ามสัตว์หรือสิ่งของที่ชำรุดหรือพิการเพราะบางครั้งสิ่งที่เรามองไม่เห็นคุณค่ามันอาจจะมีคุณค่ามากมายสำหรับใครสักคน
นางสาวนิภาพร รอดพงษ์ ม.6/10เลขที่ 12 ก.
เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ
มีเนื้อหาที่ซึ้งกินใจมากๆ
อ่านแล้วยิ้มไม่หุบเลยครับ ^^
... นายธนาธิป ศรีพันธุ์ ม.6/3 เลขที่ 2 ก
เป็นบทความที่ดีมากเลยคะ ทำให้เรารู้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์จะปกติหรือพิการ ก้มีคุณค่าไม่ควรเอาเปรียบ หรือดูถูก
คนเราแต่ละคน ย่อมมีความเทียมกันทุกคน ...
อย่าไปดูถูกเหยียดหยามใคร แม้ว่าเขาจะพิการ ...
ควรให้การยอมรับ ให้เกียรติคนพิการเหมือนอย่างคนทั่วๆไป ...
นายนวพิชญ์ ก่อแก้ว ม.6/3 เลขที่ 4ข
ถ้าต่อไป เจ้าของร้าน ก็คงจะนิ่งเงียบไปสักพักมั้งคะ
คงจะอึ้งกับสิ่งที่เขาเห็นและสิ่งที่เขาคิดอยู่
เรื่องนี้ให้แง่คิดมากมายเลยค่ะ
บอกให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันของสิ่งมีชีวิตในสังคมที่กำหนดขึ้นมาในการดำรงชีวิต
ซึ้งมากๆเลยค่ะ
สิ่งมีชีวิตทุกๆชีวิตมีค่า ไม่ว่าจะปกติหรือพิการ
มันสอนให้เรารู้ว่าควรเห็นคุณค่าของทุกคน
ไม่ควรดูถูกผู้ใด
นายกิตติพิชญ์ อินวกูล ม.6/9 เลขที่ 1ก
คนที่ตกอยู่ในภาวะเดียวกันย่อมเข้าใจกันดี ไม่ว่าคนหรือสัตว์ย่อมมีชีวิตจิตใจเหมือนกันรู้สึกได้เหมือนกัน
สอนให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งมีชีวิต ไม่ควรมองข้ามไป
น.ส.อนันญา ขยันสลุง ม.6/10 เลขที่19ก.
เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ
ทำให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์
และถ้าทุกคนคิดได้อย่างเด็กคนนี้ก็จะทำให้สังคมมีแต่คนดี
น.ส.สุฑาทิพย์ จันต๊ะเรือง ม.6/6 เลขที่ 20ก
เป็นบทความที่ดีมากครับ ทำให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิตคนเราและสัตว์ ไม่ว่าจะเกิดมายังไง คนเราทุกคนและสัตว์ต่างๆก็มีคุณค่าเท่ากัน
นายศึกษาชัย ชมไพบูลย์ ชั้น ม.6/8 เลขที่ 8ก.
เป็นบทความที่ให้แง่คิดมากคะ ทำให้เราได้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ จะพิการหรือไม่นั้น ไม่ได้ทำให้คุณค่าของชีวิตแต่ละคนลดลงเลย
นางสาววรัญญา สังข์กรม ม.6/8 เลขที่ 16ก
ซึ้งมากๆเลย T_T
บทความนี้แสดงให้เห็นว่า
"ควรเอาใจเขา มาใส่ใจเรา"
ทุกชีวิตเกิดมา ย่อมมีคุณค่า
นางสาวจิรภัทร์ แมลงภู่ ชั้นม.6/6 เลขที่ 9ก
ถึงสุนัขตัวนั้นจะพิการ
แต่ก็ยังมีคนที่มองเห็นคุณค่าในตัวของมัน
และต้องการมัน ถึงแม้บางคนจะมองข้ามไป
นายโชคชัย จันแตง ชั้นม.6/6 เลขที่ 3ข
ซึ้งค่ะซึ้ง
ทุกสิ่งเกิดมาย่อมมีค่า
ถึงแม้ว่าบางคน..จะมองข้ามคุณค่าของมัน
แต่ก็ยังมีบางคน ที่เห็นคุณค่า และให้ความสำคัญกับมัน
นางสาวปวิตรา สุขมาก ชั้นม.6/6 เลขที่ 14ก
อ่านแล้วรู้สึกสงสารเพราะถ้าเราไปเป็นมันคงเสียใจที่ตัวเองเกิดมาเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้มันก็คงไม่อยากพิการ เราไม่ควรมองที่ภายนอกอย่างเดียวเพราะทุกสิ่งมีคุณค่าเหมือนกัน ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่ก็รู้สึกดีที่เด็กคนนั้นเข้าใจมัน เจ้าของร้านนี่งงเลยว่าทำไมถึงยังจะเอาตัวนี้ ก็แน่แหละเด็กเค้าเข้าใจจิตใจและเห็นคุณค่าของมัน
นางสาวพรรณนิภา จันทร์สดี ม.6/8 เลขที่ 13ก
ไม่ว่าชีวิตคน สัตว์ หรือชีวิตไหนๆบนโลกนี้ต่างก็เลือกเกิดกันไม่ได้ ใครเกิดมาสมบูรณ์ก็โชคดีไป ส่วนที่เกิดมาพิการนั้นก็ต้องลำบากดิ้นรนกันไปแต่ใช่จะพิการทางจิตใจไม่ เมื่อคนเหล่านี้ตกอยู่ในสภาวะร่างกายที่ย่ำแย่ แต่จิตใจยังเต็มไปด้วยความเมตตาก็ย่อมเข้าอกเข้าใจคนที่ย่ำแย่เหมือนตนเองดังเด็กชายกับสุนัขพิการ หากชีวิตเราเกิดมามีพร้อมทุกอย่างแล้วก็ควรหันมาช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าด้วยความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกของเค้าอย่างแท้จริง
น.ส ธัญวรัตม์ ธรรมวิจารณ์ ม.6/5 เลขที่ 9ข
ชอบบทความนี้จังเลยค่ะ...
เป็นข้อความที่สอนให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ
ถึงแม้มันจะไม่ได้สมบูรณ์แบบก็ตาม
^^
นส.ณัฐฐิญา ทองคง ม.6/3 เลขที่14ก
ใช่แล้ว ค่าของคนเท่ากันทุกคน แต่คนเราชอบแบ่งชั้นวรรณะกันเอง ซึ่งธรรมชาติไม่ได้แบ่ง เราจะยากดีมีจนอย่างไรก็คบกันได้ด้วยใจ
บทความนี้เป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ
ทำให้เราได้รู้ถึงคุณค่าของทุกสิ่งบนโลก
ที่เราควรให้ระดับสิทธิ์ที่เท่าเทียมกัน
ถ้ามีคนที่เค้าเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้ว
ได้ฟังหรือรับรู้เรื่องเหล่านี้ น่าจะเป็น
สิ่งที่เตือนสติคนที่ยังสมประกอบได้ดี
เลยที่เดียว
นางสาวพรทิพย์ ธิกำพร ม.6/7 เลขที่ 16ข
เป็นบทความที่น่าสนใจมากเลยค่ะ
เปรียบเสมือนข้อคิด ที่ว่าเราทุกคนแม้จะต่างเพศ ต่างสีผิว ต่างเชื้อชาติ หรือต่างพันธุ์กัน เเต่เขาก็มีสิทธิ ซึ่งเราก็ควรที่จะเคารพสิทธิ์ของเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร
น.ส.อภิสรา ปภัสสรศิริ ชั้น ม. 6/8 เลขที่ 19 ก
ค่าของคนมิได้ดูที่ความสมบูรณ์แบบ หากแต่อยู่ที่หัวใจต่างหาก ถึงร่างกายจะพิการ แต่ขอให้หัวใจไม่พิการย่อมจะดีกว่าผู้ที่มีครบ 32 แต่หัวใจพิการ เพราะคนที่หัวใจพิการจะหาความสุขในชีวิตไม่ได้เลย
น.ส.สวาติวลัย พวงลำเจียก ม.6/4 เลขที่ 17ก.
สรรพสิ่งบนโลกล้วนมีคุณค่าครับอยู่ที่เราจะมองแบบไหนให้เห็นคุณค่าของมัน จงอย่ามองข้ามสิ่งที่เห็นว่ามันต่ำต้อยเพราะสิ่งนั้นแหละจะทำให้ชีวิตพบแต่ความผิดพลาดครับ
นายสุรฐิศ พงศ์บุตร ม.6/7 เลขที่ 8ข
ทุกๆอย่างบนโลกล้วนมีคุณค่า อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นสิ่งที่มีค่านั้น เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมองสิ่งต่างๆเพียงเปลือกนอก
น.ส.ดวงพร เอี่ยมสะอาด ม.6/8 เลขที่ 11ก
อย่ามองสิ่งต่างๆเพียงเปลือกนอกเท่านั้น เพราะคุณอาจจะพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไปก็ได้
นายพีรพัฒน์ วีระพงษ์ ม.6/8 เลขที่ 7ก
จงอย่าดูหมิ่นศักดิ์ศรีผู้ที่ด้อยกว่าเรา เพราะทุกคนต่างมีศกดิ์ศรีและคุณค่าในตัวเท่าเทียมกันหมด
น.ส.พลอยกมล พานิชย์พันธุ์ ม.6/8 เลขที่ 17ข
บทความนี้ซึ้งมากค่ะ..
ทุกชีวิตในโลกนี้มีค่าอยู่ในตัวสิ่งเหล่านั้นเท่าๆกัน อยู่ที่ว่าใครจะทำให้ตัวเองมีค่ามากแค่ไหน : )
นางสาวมนัสชญา พุ่มสกุล ชั้นม.6/6 เลขที่16ก
เป็นบทความที่ดี...ที่เป็นเหมือนกับสิ่งชี้เตือนว่าไม่ว่าจะคน สัตว์หรือสิ่งของต่างก็มีคุณค่า ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าถ้าร่างกายไม่สมบูรณ์ แขนขาด ขาขาด พูดไม่ได้ หูหนวก เป็นใบ้ ความคิดความอ่านช้า ไม่สวย ไม่น่ารัก ต้องเป็นคนที่ไร้ค่า หรือเป็นสิ่งของไร้ราคา เพียงเพราะมองสิ่งเหล่านั้นเพียงผิวเผิน ไม่ได้ลองมองให้ลึกซึ้งถึงจิตใจ ตัดสินเพียงแค่การมองด้วยตาแต่ไม่ได้ใช้ใจมองไปด้วย
นางสาวสุพรรณี เกตุเรืองรอง ชั้นม.๖/๑๑เลขที่๑๙ก.
บทความเหมือนเด็กจะสอนผู้ใหญ่เลยค่ะ บางสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนมองข้ามความสำคัญไป ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ต่อให้ชีวิตนี้ที่เกิดมาแล้วจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ถือได้ว่าทุกชีวิตมีควาวสำคัญ บทความนี้ก็คล้ายกับการหาเพื่อนแท้ ขอแค่เพียงคนที่เข้าใจเราสักคนก็พอแล้ว
นาสาว พภัสสรณ์ ใจดี เลขที่ 11 ก. ชั้นม. 6/7
Give me your five!
I totally agree with his idea.
na kub
Everyone has strong point and weak
point, but it mustn’t hurt
myself. That idea reminds me face
any obstacle and pass it
through. Let’s pass it together.
kub yeah yeah yeah!!!
Chakkrawut Sukkhasem class6/3 no.2B
เป็นบทความที่ดีมาก อ่านแล้วซึ้งใจมาก เพราะค่าของคนอยู่ที่จิตใจไม่ใช่ที่ร่างกาย แม้ร่างกายจะพิการแต่จิตใจไม่พิการนั้นก็ย่อมดีกว่าผู้ที่ร่างกายสมบูรณ์แต่จิตใจพิการ เพราะไม่อาจไขว่คว้าหาความสุขที่อยู่รอบกายได้เนื่องจากมองเพียงด้านเดียว
นางสาวสุรีย์รัตน์ พรมมา ชั้นม.6/11 เลขที่ 20ก.
เป็นบทความที่ดีและน่าสนใจมากค่ะ^^ ทั้งยังเป็นคติสอนใจที่ทำให้รู้จักมองให้เห็นทั้งภายในและภายนอก
ไม่ใช่สักแต่ว่ามองเพียงภายนอกแล้วมาตัดสินว่าดีหรือไม่ดี
นางสาวอัจฉรา สุวะไกร ม.6/11 เลขที่ 21ก.
คนเราไม่ได้เกิดมาแล้ว "perfect" ไปซะทุกอย่าง เปรียบเหมือนสุนัขที่พิการ ที่ไม่อาจสู้กับสุนัขตัวอื่นที่สมบรูณ์แบบ เพราะมันไม่สามารถวิ่งได้ กระโดดได้เหมือนตัวอื่น แต่คุณค่าทางจิตใจนั่นสูงกว่า เราควรมองทั้งสองด้าน แล้วเราจะพบสิ่งดีๆอีกมากมาย
นางสาววริศรา งามจริง ชั้น6/11 เลขที่ 15ข
เกณฑ์ที่จะตัดสินผู้อื่นว่าดีหรือมีค่านั้นมิได้มองแต่เพียงภาพลักษณ์ภายนอก บางสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเร้สาระแต่สำหรับบางคนนั้นอาจสูงค่ายิ่งกนว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นอยู่ได้
นางสาวเสาวลักษณ์ มากมูล ม.6/7 เลขที่ 19 ข.
เป็นบทความที่ดีมากๆเรยครับ
..เป็นการบอกถึงคุณค่าของสิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา
เพราะทุกสิ่งล้วนมีค่า และความสำคัญในตัวของมันเอง
และการที่สิ่งนั้นมันจะมีค่ามากแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับ"จิตใจ"ของผู้ที่มองดูมันอยู่
นายไชยกิตติ์ อาคมคง ชั้น ม.6/6 เลขที่ 2ก
ซึ้งมากๆเลยอ่ะ...
การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ในบางอารมณ์
เราทุกคนก็อาจลืมไปได้ว่า
เรานั้นก็ไม่ได้ต่างจากสัตว์อื่นมากมาย
แค่มีสติปัญญาและร่างกายที่ดีกว่า
จนทำให้เรานั้นเห็นชีวิตสัตว์อื่นมีค่าด้อยกว่าเรา
ทั้งที่เราก็อยู่บนโลกเดียวกัน...แล้วก็ตายได้เหมือนกัน
นายอดิศักดิ์ นาคะปักษิณ ม.6/6 เลขที่ 6ก.
คุณค่าในตัวของเราเองนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนอื่นมองหรือเห็นในสิ่งที่เราทำ
แต่มันขึ้นอยู่กับจิตใจของเราต่างหาก เพราะมีเพียงแต่เราเท่านั้นที่รู้ว่าแท้จริงแล้วจิตใจของเรารู้สึกแบบไหนและอยากทำสิ่งไหนมากกว่ากัน
อย่าไปสนใจหากใครจะตีค่าเราให้ต่ำต้อยด้อยค่าแค่ไหน อย่าไปเสียใจหากจะมีคนไม่เห็นคณค่าของเรา เพราะอย่างน้อยก็เรานี่แหละที่รู้ว่าตัวเรามีค่าแค่ไหน (อย่าดูถูกตัวเองนักเลยหากจะบอกว่าตัวเองไม่มีค่า)
คนเราทุกๆคนย่อมมีคุณค่าในตัวเองเสมอ ^___^
ฉันเชื่อแบบนั้นนะ
นางสาวจุฑามาศ ศรีชมภู ชั้น ม.6/6 เลขที่10ข
แสดงความคิดเห็น