วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

คลิปวัยรุ่น (stepup shows )

ดอกสร้อยนิยามวัยรุ่น
วัยเอ๋ยวัยรุ่น คือวัยวุ่นอลวนปนปัญหา
ทั้งเรื่องรักเรื่องเพียรเรียนวิชา มีกรอบกฎกำหนดพาให้ทำตาม
สิทธิ์เสรีควรมีไหมในวัยรุ่น พวกเธอครุ่นคิดครวญใคร่ในคำถาม
" ลองผิดถูก/ปลูกปัญญา/หานิยาม " นี่คือความหวังใหม่วัยรุ่นเอย.
ศักดิ์สิทธิ์ นามสุวรรณ
วัยโจ๋ / วัยมัน / วัยซ่า / วัยทีน / วัยคะนอง / วัยอยากลองอยากรู้............................ฯลฯ
คือสรรพนามของวัยรุ่น
ที่ผู้ใหญ่พูดถึงเสมอ
แต่เราก็ภูมิใจ
เพื่อ...................................
ค้นหาตนเองแล้วเดินตามทางที่ผู้ใหญ่เดิน / แต่น่าจะดีกว่า / สร้างสรรค์กว่า
เพื่อจรรโลงสังคมอนาคตของเรา และลูกหลานของเรา
ไม่ลองไม่รู้นะ !

แต่อยากรู้ว่าจะไปได้แค่ไหน ???

ก็ลองมาดูคลิป นี่คือตัวอย่างวัยรุ่นที่สร้างสรรค์ด้านดนตรี / กีฬา และการเต้นโชว์ต่างๆ
เพื่อบอกว่า......ต้องพยายาม / ซ้อมและทำงานเป็นทีม จ้ะ !
http://picpost.mthai.com/view_picpost.php?cate_id=37&post_id=403567
( เรียนหนักพักชมวิวเพื่อผ่อนคลาย )
คลิปวีดีโอ ดนตรีและกีฬาที่น่าสนใจ / ตั้งใจหามาฝากวัยรุ่นโดยเฉพาะ

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

จากหมวดตี้ถึงครูจูหลิง - ความศรัทธา / ความรัก และสันติภาพ

มอบแด่.......

ความเสียสละอันยิ่งใหญ่และความศรัทธาต่อหน้าที่

เพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรักแด่วีรบุรุษไว้ชั่วนิรันดร์

ขอให้รากแก้วแห่งความรักนี้....ช่วยบำรุงจิตใจผู้คนทุกศาสนา

จนทำให้เกิดแผ่นดินแห่งสันติภาพตลอดกาล

1. ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ

วันที่ 20 มิ.ย. 2551 เวลา 09.02 น. พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก. สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากฐานปฏิบัติการ ตชด.มว.รพศ.1 บ้านสันติ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่ม ชุดหน่วยรบพิเศษ ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ถูกกลุ่มคนร้ายซุ่มยิงและเกิดเหตุปะทะกัน บนถนนสายเขื่อนบางลาง-สันติ 1 หมู่ 2 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จึงประสานกำลังเข้าไปสนับสนุน แต่ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ต้องพบกับอุปสรรคเนื่องจากคนร้ายได้นำวัตถุต้องสงสัย และโปรยตะปูเรือใบไว้เป็นระยะ ทันทีที่เข้าไปถึงเจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บนอนกระจายกันอยู่ทั่วบริเวณจึงประสานขอเฮลิคอปเตอร์ จากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (ศปก.สน.) เข้ามารับตัวนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อ พ.ต.ท.กิตติกานต์ กัปปิยะบุตร อายุ 50 ปี ผบ.ร้อย ตชด. มว.รพศ.1 บ้านสันติ ส.ต.ท.คมกริช ทองยา ถูกยิงที่ขาขวากระดูกหัก ตัดเส้นเลือดขาด จ.ส.ต. อนุสรณ์ บุตรพรหม ถูกยิงที่ขาขวา ส.ต.ต.เริงศักดิ์ แก้วเสน่ห์ ถูกยิงที่ขาขวากระดูกหัก เส้นเลือดขาด และ จ.ส.ต.ประสาท โคตรแก้ว ถูกยิงที่แขนและฝ่ามือซ้าย นอกจากนี้ยังพบศพ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ รอง ผบ.ร้อย ตชด.มว. รพศ.1 บ้านสันติ (ตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร)

ประวัติ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ หรือ ผู้หมวดตี้ เป็นบุตรชายคนเดียวของ นายนรินทร์ และนางพิมพ์ลักษณ์ บุญลือ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 44 และจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 60 และถูกส่งตัวลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 51 ทั้งนี้ ร.ต.ต.กฤตติกุล ได้เขียนบทความไว้ในเว็บไซต์ http://polize.diaryis.com/ โดยยึดคติประจำใจว่า “ถึงตัวจะตายก็ช่างมัน มิเคยคำนึงถึงชีวัน เข้าประจันเหล่าร้ายเพื่อประชา...” ทั้งนี้ ช่วงที่ ร.ต.อ.ธรนิศ ศรีสุข หรือผู้กองแคน ถูกกลุ่มแนวร่วมลอบยิงเสียชีวิตไปเมื่อปี 50 ร.ต.ต.กฤตติกุล ที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ได้พรั่งพรูความในใจออกมา ว่าจะสานต่อความตั้งใจอันแน่วแน่ของรุ่นพี่ในการปกปักรักษาผืนดิน กรวดทรายทุกเม็ดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เอาไว้ให้ได้

“ ...จริงอยู่ ว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเรา ที่ต้องมา แต่ถ้าแค่เพียงคำว่า “ หน้าที่ ” อย่างเดียว มันไม่พอหรอก ที่จะเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบนี้
ชีวิตตี้เองยังมีอะไรไปได้อีกเยอะ แต่.... “ หัวใจ ” นี่แหละ ที่ทำให้ตี้ และ หลาย ๆ คน เลือกที่จะมาทำงานแบบนี้ อยากให้มองสองภาพ ภาพแรก ผุ้ชายใส่เสื้อเชิ้ต ผูกไทด์ กางเกงแสล็ค ผมเป๋มันวาว ขับรถหรู ทำงานเก้าโมงเช้าเลิกงานห้าโมงเย็น ตอนเย็นกลับบ้าน คืนวันศุกร์ไปเที่ยว ชีวิตโก้หรู เงินเดือนหลายหมื่น แต่... ทำงานเพื่อตัวเอง ภาพสอง ผู้ชายใส่เสื้อเกราะ สะพายปืน ผมกระเซิง หน้ามัน เงินเดือนหมื่นนิดๆ ทำงานทั้งวัน บ้านอยู่ห่างออกไปอีกพันกว่ากิโล ตากแดด ตากลม และไม่รู้ว่าวันไหนคือวันศุกร์ แต่... ทำงานเพื่อประเทศชาติ ถ้าสองคนนี้ยืนคู่กัน ในความคิดตี้ คนที่สองชนะใจครับ ไม่ได้ว่าอะไรใคร และไม่ได้ชมว่าพวกกุต้องดีเลิศ แค่อยากจะบอกว่า.... ทำอะไรประเทศชาติกันบ้าง อย่าเห็นแก่ตัวเอง ผมไม่ได้เก่งที่สุด ผมไม่ได้เจ๋งเป้ง ผมก็แค่.... รักประเทศไทย.... ”



ไดอารี่ฉบับสุดท้ายที่หมวดตี้เขียนไว้คือวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ซึ่งวันนั้นเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 24 ของเขา ใช้ชื่อเรื่องว่า 'ครั้งแรก' ซึ่งขึ้นต้นว่า 'ก็มันไม่เคยนิ' และ 'วันนี้อยู่ดูโลกให้โสภิณ พรุ่งนี้ชีวินสิ้น ไม่รู้...วันตาย...' ราวกับจะเป็นลางบอกลากลายๆ ซึ่งในไดอารี่เขาได้มอบบทเพลง 'อิ่มอุ่น' ของ 'ศุ บุญเลี้ยง' ให้กับ 'แม่' ของเขาที่อยู่จังหวัดลพบุรี พร้อมๆ กับคำขอบคุณแม่ (ซึ่งเกิดในวันเดียวกันกับเขา) ที่ทำให้เขาเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ด้วยข้อความสื่อสารถึงแม่ที่ว่า… 'แม่จ๋า... วันเกิดลูกไม่ได้ไปฉลองที่ไหนจริงๆ นะแม่ แถวนี้ไม่มีที่ให้ฉลองอะ แค่ลูกรอดกลับมาได้ก็พอใจแระ ...เดี๋ยวรอกลับไปฉลองกับเด็จแม่ที่บ้านเรา เนอะๆ...ไม่ได้กลับไปหาเด็จแม่นานแล้วด้วย คิดถึ้งงง คิดถึงว่าจะไปหาเด็จแม่.... ไปขอตังค์ 55+'
'วันเกิดเด็จแม่ เด็จลูกก็ขอให้เด็จแม่แข็งแรงเน้อ...อยู่กะลูกไปนานๆ ให้ถึงวันลูกติดนายพลเลยนะแม่นะ...และก็..ขอให้เด็จแม่มีลูกสะใภ้คนโตสวยๆน่ารักๆ นิสัยดีๆ...(อันนี้ออกแนวหวังผลกะตัวเอง 55+)'


ที่โรงเรียนบางปะหันวิทยา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ก.ค. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นำพระราชหัตถเลขา แสดงความเสียใจไปมอบให้กับครอบครัว ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ ที่เสียชีวิตจากการซุ่มยิงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายนรินทร์ และนางพิมพลักษณ์ อาจารย์โรงเรียนบางปะหันวิทยา พ่อและแม่ของ ร.ต.ต.กฤตติ กุล ท่ามกลางความปลาบปลื้มของเพื่อนครู และนักเรียน ทั้งนี้เนื้อหาในพระราชหัตถเลขาความว่า
“เมื่อครั้งที่ทราบข่าวว่า ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ สละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยในภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2551 ข้าพเจ้าก็เศร้าเสียใจมากอยู่แล้ว แต่เมื่อได้มาอ่านหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต. กฤตติกุล จึงทราบถึงอุดมการณ์ของเขาที่ต้องการทำหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่ ในการพิทักษ์รักษาแผ่นดินแม่ อีกทั้ง ร.ต.ต.กฤตติกุล ยังเขียนบันทึกไว้ด้วยว่า ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่อารักขาข้าพเจ้าเมื่อปีที่แล้ว อุ่นใจที่ได้ใช้ผ้าเช็ดตัวจากสิ่งของพระราชทานซึ่งข้าพเจ้ามอบให้กองกำลังอารักขาเป็นประจำเสมอมา และดีใจที่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารที่ทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสะเทือนใจ และแสนเสียดายหนักหนา ที่ยังมิได้มีโอกาสพูดคุยกับวีรบุรุษหนุ่มน้อยผู้นี้เลย ร.ต.ต.กฤตติกุล คือลูกไทยผู้มั่นในความซื่อตรงจงรักภักดีต่อประเทศชาติ นับเป็นโชคดีเหลือล้นที่ประเทศไทย มีผู้กล้าหาญที่ไม่คิดหลบหนีเมื่อมีภัยมาถึงบ้าน แต่กลับเลือกที่จะไปเสี่ยงชีวิตอยู่ในดินแดนอันตราย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยส่วนใหญ่อยู่รอดปลอดภัย ข้าพเจ้าทราบดีว่าคุณนรินทร์ และคุณพิมพลักษณ์ เสียใจเพียงใดที่ต้องสูญเสียบุตรชายผู้เป็นที่รัก แต่ขอให้ท่านทั้งสองภูมิใจในสายโลหิตผู้ข้นเข้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักชาติผู้นี้เถิด เพราะวีรกรรมของเขาจะจารึกไว้ในแผ่นดินไทย และจารึกอยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าตลอดไป ” นางพิมพลักษณ์ ผู้เป็นแม่กล่าวด้วยน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มว่า รู้สึกภูมิใจในความเสียสละของลูกต่อประเทศชาติ แม้ว่าจะรู้สึกเสียใจ แต่เมื่อได้รับพระราชหัตถเลขาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำให้ครอบครัวมีกำลังใจ



"....วันนี้เคราะห์ดี รุ่งขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร...."ยังไงก็ต้องสู้กันต่อไปละครับทำไงได้วะ มันหน้าที่ ..........ของพวกเรานิ เคยบอกแล้วว่า....หมวดตี้มะช่ายฮีโร่ มะช่ายพระเอกไม่ต้องชมมาก รู้ว่าหล่อแล้ว ไม่ต้องชม ฮ่า ๆ..."



2. ครูจูหลิง ปงกันมูล

นางสาว จูหลิง ปงกันมูล หรือ ครูจุ้ย (มีนาคม พ.ศ. 2522 - 8 มกราคม พ.ศ. 2550) ผู้ช่วยครู โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไปคุมขังไว้ในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใกล้มัสยิดประจำหมู่บ้าน และถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 เจ้าหน้าที่สามารถช่วยครูจูหลิงได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันต่อมา เนื่องจากเธอถูกตีจนสมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงรับครูจูหลิงเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์โดยตลอดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต


จูหลิง เป็นบุตรสาวคนเดียวของ คุณสูน-คุณคำมี ปงกันมูล เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2522 คุณพ่อเป็นผู้ตั้งชื่อให้ว่า "จุ้ยหลิน" ตามชื่อนางเอกหนังจีนกำลังภายใน แต่เจ้าหน้าที่จดทะเบียนเป็น "จูหลิง" และมีชื่อเล่นว่า "จุ้ย" เป็นชาวตำบลบ้านปงน้อย กิ่งอำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย จบปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เมื่อ พ.ศ. 2545

พิพิธภัณฑ์ศิลปะครูจูหลิง

ประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์

แด่ครูจูหลิง ปงกันมูล ( ครูจุ้ย )
O เมืองฟ้าเมฆห่มดอยคอยเป็นห่วง ภูดอยหลวงปกปักล้อมรักษา
คอยเห่กล่อมถนอมเลี้ยงเพียงมารดา นามสมญาวังเวียงเมืองเชียงราย
ธรรมชาติเมืองเหนือเกื้อกูลรัก อยู่พร้อมพรักหลากชีวีมีความหมาย
ป่าสัตว์คนเคียงข้างไม่ห่างกาย ชีพหลากหลายพึ่งพาอาศัยกัน
หลอมเป็นร่างหญิงงามนาม “ จูหลิง “ รวมทุกสิ่งร้อยใจให้จอมขวัญ
พ่อแม่รัก “ ลูกจุ้ย “ เปรียบเทียบชีวัน สร้างสัมพันธไมตรีที่น้ำใจ
วัยละอ่อนพากเพียรเรียนเขียนอ่าน สนใจงานศิลป์ศาสตร์วาดสมัย
จิตรกรรมงานศิลป์อยู่ถิ่นใด จะใกล้ไกลร่วมทางสร้างฝีมือ
O ครูจูหลิง ปงกันมูล ขอเทิดทูนน้อมรับยอมนับถือ
อุดมการณ์สานฝันอันเลื่องลือ เธอนั้นคือครูแท้แห่ง “ แม่พิมพ์ “
หยาดน้ำใจไหลเป็นสายหลายพื้นที่ อุทิศพลีพลังให้ไม่เต็มอิ่ม
สะดุดรอยทางฝันไม่ทันยิ้ม เลือดเป็นลิ่มทะลักเลอะเปรอะเต็มกาย
หรือเป็นดวงแห่งศรัทธาจึงมาพราก นกน้อยจากเมืองเหนือเหยื่อเมืองใต้
อุดมการณ์สวยสดหมดความหมาย รอความตายคือรางวัลบั่นใจคน
O ก่อนจับฆ่าลากร่างคิดบ้างไหม ว่าสิ่งใดสมควรแน่แก่เหตุผล
หรือสาสมเพียงแค่แก่ใจตน ใช่ทางพ้นบ่วงทุกข์สุขวิญญาณ์
หยุดเถิดกรณีการพลีชีพ จะเป็นชีพใครใครในผืนหล้า
ความจริงสัจศาสตร์ทุกศาสดา ต่างเมตตาหนุนนำทำบุญทาน
O จิตครูจุ้ยจงปล่อยวางอย่างสงบ ขอน้อมนบทุกดวงจิตอธิษฐาน
ครูจะก่อสร้างสมอุดมการณ์ เพื่อสืบสานครูแท้แก่แผ่นดิน
ศักดิ์สิทธิ์ นามสุวรรณ