วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เที่ยวเมืองกาญจน์ ปี' 2552

เที่ยวเมืองกาญจน์ ปี ’ 52
ทองผาภูมิถิ่นคั่นด้านสันขวาน เขตเมืองกาญจนบุรีที่อาศัย
แผ่นดินทองบรรพชนของคนไทย รวมหัวใจปกปักรักษ์สืบมา
ภูมิแผ่นดินเป็นชั้นล้วนหลั่นเขา ถิ่นลำเนาป่าไพรในภูผา
เกิดสายน้ำซัดเซาะเลาะพนา ชุบชีวาคนคงบนดงดอน
สังขละบุรีทางเทียวเลี้ยวเลาะลัด เป็นทางตัดระยะย่นบนสิงขร
วัดวิเวการามนามกำจร ขอบนาครพม่าไทยแต่ไรมา


มีเจดีย์สามองค์คงเขตขัณฑ์ แนวแบ่งปันประเทศเขตรักษา
ชี้บอกบ่งยังคงรัฐกษัตรา ตารางวาแม้เพียงเซนต์เป็นของไทย
ได้มาเห็นเป็นขวัญตาพาใจสุข ละความทุกข์ถิ่นเมืองแมนมาแดนใหม่
กราบหลวงพ่ออุตมะจะคุ้มภัย ทุกเพศวัยกะเหรี่ยงมอญวอนเมตตา

พบชาวไทยเชื้อมอญสัญจรผ่าน กลางสะพานแห่งศักดิ์ศรีมีสง่า
สามัคคีร่วมสร้างทางศรัทธา มอญยิ้มมาไทยยิ้มตอบมอบสัมพันธ์
ไทยมีชาติศาสนามหากษัตริย์ เป็นเครื่องวัดชาติคงดำรงมั่น
ใต้ร่มฉัตรธรรมาองค์ราชัน หลอมชีวันเลือดไทยแต่ไรมา


แต่กะเหรี่ยงไร้รากอยากขอกล่าว พบเรื่องราวเพียงย่อก็ห่อเหี่ยว
ใช้แรงงานช่วยไทยใบหน้าเซียว แสนเปล่าเปลี่ยวเพราะสิ้นชาติอนาถใจ

เป็นบทเรียนสอนตนคนมีราก หยุดถางถากอวดอำนาจวางบาตรใหญ่
อยากให้จำเป็นนิยามความเป็นไทย อาจสิ้นไปเพราะสิ้นรัฐวัฒนธรรม




สังคมคนจิตตกเมืองอกแตก แดงเหลืองแยกฉุดไทยไปทางต่ำ
สิ้นสำนึกคุณความดีมีน้อมนำ รอเพียงกรรมมาเกื้อไทยพ้นภัยเทอญ.

29 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เคยไปเมืองกาญจนบุรีบ่อยค่ะ
แต่ยังไม่เคยไปหมู่บ้านชาวมอยเลย
น่าสนุกดีนะ เป็นพื้นบ้านๆดีค่ะ
คราวหน้าต้องไปให้ได้เลยค่ะ
แล้วจะถ่ายรูปมาฝากค่ะ

นางสาวธันยพร บำรุง ม.6/4 เลขที่ 10ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อาจารย์ค่ะ
ทำไมกะเหรี่ยงหมู่บ้านนี้ไม่ใส่ห่วงที่คอหละค่ะ
น.ส.เจติยา วงศ์เสือ เลขที่ 12ข ม.6/9

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บทความนี้สอนเราหลายๆอย่าง โดยเฉพาะการที่เราจะมีความสุขและดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขนั้น ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจมากมาย ต่างกับคนที่มีอำนาจแล้วนำมันไปใช้ในทางที่ผิด

นายสรุจ ประเสริฐวงศ์ ม.6/8 เลขที่10ก

นางสาวอวิกา รอดเสมอ ชั้ม.6/4 เลขที่21ก กล่าวว่า...

อาจารย์คะ...หนูก็เคยไปค่ะ ที่กาญจนบุรี แต่ไปแค่ครั้งเดียว แต่หนูไม่เคยเห็นกะเหรี่ยงเลยค่ะ .. ต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้รับรู้อะไรหลายๆอย่าง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ขอบคุณมากค่ะ


นางสาวอวิกา รอดเสมอ ชั้นม.6/4 เลขที่21ก

น.ส.ปัฐมพร สมสกุล ชั้นม.6/4 เลขที่ 16ก กล่าวว่า...

อยากไปสะพานไม้มอญมากๆ เลยค่ะ
ที่นั่นอากาศดีไหมคะอาจารย์:D

ถ้ามีโอกาสได้ไป จะมาเล่าสู่กันฟังนะคะ^^


น.ส.ปัฐมพร สมสกุล ชั้นม.6/4 เลขที่ 16ก

นายศุทธวีร์ เกษจุโลม ชั้นม.6/4 เลขที่ 6ก กล่าวว่า...

ภาพสวยอีกแล้วครับอาจารย์:)
อ่านกลอนแล้วทำให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่นั่น^^
ทำให้อยากไปเที่ยวเมืองกาญจน์เลยครับ


นายศุทธวีร์ เกษจุโลม ชั้นม.6/4 เลขที่ 6ก

น.ส.ชนัฎดา บุณยประสิทธิ์ เลขที่9ข. ม.6/4 กล่าวว่า...

ชอบการร่ายรำของชาวมอญ ดูเค้ารักสามัคคีกันดี ไม่แตกแยกเหมือนสังคมไทยปัจจุบันนี้อ่ะค่ะ เด็กๆน่ารักดีค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เคยไปเที่ยวเมืองกาญจน์

มาเเล้วคร่า

แต่ไม่เคยได้เห็นชีวิต

ของชาวบ้านที่นั่นเลยคะ

อยู่ที่ไหนคะ

ถ้ามีโอกาสได้ไป

เที่ยวเมืองกาญจน์อีก

หนูก้ออยากไปสัมผัส

บรรยากาศและความเป็นอยู่

ของชาวบ้านที่นั่นคร่า.....

น.ส.ชุดาพร นพเก้า ม.6/4 เลขที่13ก

นส.สุพรรษา ไตรโสม ชั้น ม.6/3 เลขที่ 18ข กล่าวว่า...

สถานที่แต่ละแห่งสวยมากๆเลยค่ะ
พออ่านกลอนของอาจารยืไปด้วย
รุสึกเห็นภาพชีวิตความเป็นมามากขึ้นกว่าเดิม
น้องกะเหรี่ยงน่ารักมากค่ะ
เห็นแล้วอยากไปเที่ยวเมืองกาญจน์บ้างจังเลยค่ะ
ยังไม่เคยไปสักที

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย
ชอบหมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงมากๆ
น่าอยู่จัง
เจดีย์สามองค์สวยงามมากค่ะ

นางสาวมัลณิตา เริงชัยภูมิ ม.6/10 เลขที่ 14ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ยังไม่เคยไปเที่ยวเมืองกาญเลย คงสวยมาก
อาจารย์ช่วยแนะนำสถานที่เที่ยวหน่อยสิครับ
ขอบอกว่ารูปที่ถ่ายมาสวยมากๆๆๆ
ผมจะหาเวลาไปเที่ยวบ้าง

นายกิตติพิชญ์ อินวกูล ม.6/9 เลขที่ 1ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมเคยไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีครับ แต่ว่าไม่ได้ไปที่เดียวกับอาจารย์เลย ตอนไปรู้สึกจะไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว (แม่ไปดูพวกเครื่องประดับ) แล้วก็ไปที่น้ำตกเอราวัณ (น้ำเย็นมาก) ไม่ค่อยได้ไปเที่ยววัดหรือสถานที่แบบนี้ เหมือนกับได้ไปเที่ยวอีกครั้ง ขอบคุณอาจารย์มากครับ


นายอภิชาติ พานิชชอบ ม.6/4 เลขที่ 8 ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รูปสวยมากค่ะ

เห็นรูปแล้วอยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้จัง
หนูยังไม่เคยไปเลยค่ะ
ถ้ามีโอกาสหนูจะชวนพ่อกับแม่ไปค่ะ

เมืองไทยมีที่เที่ยวตั้งหลายที่ที่น่าสนใจนะคะ

นางสาวชนิดาภรณ์ ห้องกระจก ม.6/4 เลขที่ 12ก.

น.ส.อสมาภรณ์ วามน ม.6/3 เลขที่ 19 ข. กล่าวว่า...

ภาพที่อาจารย์ถ่ายสวยมากเลยค่ะ คำกลอนที่อาจารย์บรรยายมาทำให้เห็นถึงความอบอุ่นที่คนในชุมชนมีให้เห็นวัฒนธรรมของชาวกะเหรียงและเราควรอนุรักษ์ ไว้
ขอบคุณอาจารย์ที่นำภาพสวยมาให้พวกเราชม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บรรยากาศเมืองกาญ น่าเที่ยวมากเลยค่ะ
ผู้คนก็ดูเป็นมิตรมากๆ ถ้าได้ไปเที่ยวคงสนุกน่าดู

น.ส. มาลินี แตงเขียว ม.6/3 15ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ยังไม่เคยไปเที่ยวที่นี่เลย
ไม่รู้ว่าเมืองกาญจะมีกระเหรี่ยงด้วย

นส.จิตติรัตน์ โล่ห์คุณสมบัติ ม.6/3 เลขที่ 12ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เกิดมา ยังไม่เคยไป กาญ เลย

แต่ได้ดู รูปก็เหมือนได้ไปและ

แถมมีกลอนเพราะๆๆ อีก

ขอบคุณ ครับ

นายวรศักดิ์ ประโรกิจจักร์ ม.6/3 เลขที่ 6ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมืองไทยมีสถานที่ที่น่าไปสัมผัสด้วยตัวเองมากมาย

หนูยังไม่เคยไปเมืองกาญจน์เลย

อยากไปบ้างจัง

เห็นผู้คนที่นั่นยิ้มแย้มดูแล้วมีความสุขจัง ><

น.ส. พัลธมาส เชตุพันธุ์ ม.6/4 เลที่ 16ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดูจากรูปแล้ว อากาศน่าจะดี

เอาไว้ถ้ามีโอกาส ผมจะชวนครอบครัวไปเที่ยวบ้าง

ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอญ

นาย กิตติณัฏฐ์ จันทร์สุเทพ ม.6/4 เลขที่ 7ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ภาพสวย กลอนก็เพราะ
ทำให้อยากไปดูวิถีชีวิต
ของชาวมอญจริงๆซะแล้วล่ะค่ะ

น.ส.อรณิชา หงษ์ทอง ม.6/4 20 ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมืองกาญจน์น่าไปเที่ยว วันหลังจะไปกับครอบครัวบ้าง
เห็นภาพแล้วน่ารักมากเลย ดูแล้วรู้สึกสนุกสนานทำให้รู้ว่าไม่ว่าอยู่ที่ไหนของเมืองไทยก็รู้สึกสนุกสนาน และสบายใจอยู่เสมอ

นางสาววรัญญา สังข์กรม ม.6/8 เลขที่ 16ก

น.ส.จิรภัทร์ แมลงภู่ เลขที่ 9ก ชั้นม.6/6 กล่าวว่า...

เจดีย์สวยนะค่ะ
ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
หมู่บ้านกะเหรี่ยงนี้เขาก็มีวัฒนธรรมของเขา
ดูแล้วนึกถึงคำว่า "อบอุ่น" และก็"สามัคคี"
จริงๆ

น.ส.จิรภัทร์ แมลงภู่ เลขที่ 9ก ชั้น ม.6/6

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมมีโอกาสไปเมืองกาญจน์บ่อยมาก
แต่ยังไม่มีครั้งไหนที่ผมจะได้ข้าม
สะพานข้ามแม่น้ำแควสำเร็จสักครั้ง
ก็มันสูงและเสียว (น่ากลัว)
และยังได้ขึ้นรถตรวจรางรถไฟ ไปถ้ำกระแส
สวยมากครับ...

นาย จิตวิสุทธิ์ เขียวสะอาด ชั้น ม.6/4 เลขที่ 2ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

How beautiful!!!
I have just been there one time.kub
Inspite of one time,I've been able to see "Passing Kwaw river Bridge" faraway, But I've never been "Karens village"(moo-baan-ka-rieng)....T-T"...
So regret.mak mak kub
Before I die,I've been there once ina lifetime.(tong-tam-hai-dai-kub
Yeah Yeah Yeah 555+)
Thanks professor Saksit for advantageous article.kub

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมชอบการหล่อเทียนครับ ผมอยากไปดูการทำมากๆเลย ถ้ามีโอกาส มันเป็นประเพณีที่มีมานนานแล้ว เพราะต้องใช้ในการแห่เทียน แต่คนไทยผู้ที่มีศิลปะ สามารถสร้างผลงานที่สวยมาก ต่างประเทศก็มีแต่เป็นแกะสลักน้ำแข็ง ผมก็ยังคิดว่าความอ่อช้อยและปราณีตยังไม่เท่าเทียนของเมืองไทยหรอกครับ ลองแค่คิดดูขนาฝรั่งตอนออกพรรษาเขายังมาเที่ยวประเทศไทยเลย มาถ่ายรูปเทียนแห่พรรษา ที่งดงามที่สุดในโลก^^


นายสมยศ ฝั่งทะเล ม.6/11เลขที่8ก

Minkey กล่าวว่า...

เมืองกาญจนบุรี สวยจังคะ ชาวกระเหรี่ยงก็รำสวยมากคะ สะพานไม้มอญน่าไปจัง เด็กๆน่ารักจังคะ ดูเขารักกันดีจังคะ อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้จัง

นางสาววริศรา งามจริง ชั้น6/11 เลขที่ 15ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การร่ายรำที่สวยงาม ของชาวกระเหรี่ยง สวยงามมากคะ เป็นบทความที่ดีคะ คนเราไม่ว่าชาติไหนก็ควรรักกันไม่ควรแบ่งแยกกัน เหมือนที่เราอยู่ร่วมกับชาวกระเหรี่ยงคะ

ขอบคุณรูปสวยๆคะอาจารย์

นางสาวธนิศา จัตุรัส ชั้น6/11 เลขที่7ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนกะเหรี่ยง..ไม่มีสัญชาติ ไม่มีบัตรประชาชน คือคนไม่มีตัวตน ในทางกฎหมาย แต่..พวกเขามีความรักให้กัน มีน้ำใจ มีความห่วงใยกัน มีความปรองดอง สามัคคี ในหมู่พี่น้อง เพื่อนพ้อง...แต่ทำไม คนไทย มีครบทุกอย่าง ทั้งสัญชาติ และตัวตน ถึงไม่รักกันไม่ปรองดองกันอย่างกะเหรี่ยงพวกนี้

ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน ใส่เสื้อสีอะไร ยังไงก็ คือคนไทย เหมือนกัน!!!!

นางสาวตวงพร รอดพิทักษ์ ม6/7 เลขที่ 14 ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ภาพสวยมากค่ะ

เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าเที่ยวมากๆเลย

วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามจรรโลงใจคนได้เป็นอย่างดีค่ะ หนูคิดว่าสิ่งเหล่านี้หาค่าประมาณไม่ได้

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆนะคะ

นางสาวจิราพร เหรัญญิก
เลขที่ 8ข 6/5