วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2551

นางเอกในวรรณคดีไทย 1 - มัทนพาธา



นางมัทนา
เทพสุเทษณ์เป็นทุกข์อยู่ด้วยความลุ่มหลงเทพธิดามัทนาผู้ไม่มีใจให้เลย แม้ว่าสุเทษณ์จะเกี้ยวพาและรำพันรักอย่างไร สุเทษณ์โกรธนักจึงจะสาปมัทนาให้ไปเกิดในโลกมนุษย์ มัทนาขอให้นางได้ไปเกิดเป็นดอกไม้มีกลิ่นกลิ่นหอมเพื่อให้มีประโยชน์บ้าง สุเทษณ์จึงสาปมัทนาให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบที่งามทั้งกลิ่นทั้งรูปและมีแต่เฉพาะบนสวรรค์ยังไม่เคยมีบนโลกมนุษย์ โดยที่ในทุกๆ 1เดือน นางมัทนาจะกลายร่างเป็นคนได้ชั่ว 1 วัน 1 คืน ในเฉพาะวันเพ็ญของแต่ละเดือนเท่านั้น แต่ถ้านางมีความรักเมื่อใด นางก็จะมิต้องคืนรูปเป็นกุหลาบอีก กลับจะได้รับความทุกข์ทรมานเพราะความรักจนมิอาจทนอยู่ได้ และเมื่อนั้นถ้านางอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ตนจึงจะงดโทษทัณฑ์นี้ให้แก่นาง
นางมัทนาไปจุติเป็นกุหลาบงามอยู่ในป่าหิมะวัน(ป่าหิมพาน) บรรดาศิษย์ของฤษีนามกาละทรรศินมาพบเข้าจึงนำความไปบอกพระอาจารย์ กาละทรรศินจึงให้ขุดไปปลูกในบริเวณอาศรมของตน วันเพ็ญในเดือนหนึ่งท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งหัสตินาปุระได้เสด็จออกล่าสัตว์ในป่าหิมะวันและได้แวะมาพักที่อาศรมพระฤษี ครั้นได้เห็นนางมัทนาในโฉมของนารีผู้งดงามก็ถึงกับตะลึงและทั้งสองเกิดความรักต่อกัน เมื่อมีความรักแล้วนางมัทนาก็ยังคงรูปเป็นนารีผู้งดงามมิต้องกลายรูปเป็นกุหลาบอีก ท้าวชัยเสนได้ทูลขอนางมัทนาต่อพระฤาษีก็ยกให้พร้อมกับจัดพิธีบูชาทวยเทพและพิธีวิวาหมงคลในป่านั้น ก่อนท้าวชัยเสนจะนำนางมัทนาเสด็จกลับวังโดยให้ประทับอยู่แต่ในอุทยาน พระนางจัณฑี มเหสีให้นางกำนัลมาสืบดูจนรู้ว่าพระสวามีนำสาวชาวป่ามาด้วย จึงตามมาพบท้าวชัยเสนกำลังอยู่กับนางมัทนาพอดี เมื่อพระนางจัณฑีเจรจาค่อนขอดดูหมิ่นนางมัทนา ท้าวชัยเสนก็กริ้วและทรงดุด่าว่าเป็นมเหสีผู้ริษยา พระนางจัณฑีแค้นใจนัก ให้คนไปทูลฟ้องพระบิดาผู้เป็นเจ้าแห่งมคธนครให้ยกทัพมาทำศึกกับท้าวชัยเสน จากนั้นก็คบคิดกับนางค่อมอราลีและวิทูรพราหมณ์หมอเสน่ห์ทำอุบายกลั่นแกล้งนางมัทนา โดยส่งหนังสือไปทูลท้าวชัยเสนว่านางมัทนาป่วย ครั้นเมื่อท้าวชัยเสนรีบเสด็จกลับมาเยี่ยมนางมัทนาก็กลับพบหมอพราหมณ์กำลังทำพิธีอยู่ใกล้ๆต้นกุหลาบ วิทูรกับนางเกศินีข้าหลวงของนางจัณฑีจึงทูลใส่ความว่านางมัทนาให้ทำเสน่ห์เพื่อให้ได้ร่วมชื่นชูสมสู่กับศุภางค์ ท้าวชัยเสนกริ้วนักรับสั่งให้ศุภางค์ประหารนางมัทนา แต่ศุภางค์ไม่ยอม ท้าวชัยเสนจึงสั่งประหารทั้งคู่ พระนางจัณฑีได้ช่องรีบเข้ามาทูลว่าตนจะอาสาออกไปห้ามศึกพระบิดาซึ่งคงเข้าใจผิดว่านางกับท้าวชัยเสนนั้นบาดหมางกัน แต่ท้าวชัยเสนตรัสว่าทรงรู้ทันอุบายของนางที่คิดก่อศึกแล้วจะห้ามศึกเอง พระองค์จะขอออกทำศึกอีกคราแล้วจะตัดหัวกษัตริย์มคธพ่อตาเอามาให้นางผู้ขบถต่อสวามีตนเอง ขณะตั้งค่ายรบอยู่ที่นอกเมือง วิทูรพรหมณ์เฒ่าได้มาขอเข้าเฝ้าท้าวชัยเสนเพื่อสารภาพความทั้งปวงว่าพระนางจัณฑีเป็นผู้วางแผนการร้าย ซึ่งในที่สุดแล้วตนสำนึกผิดและละอายต่อบาปที่เป็นเหตุให้คนบริสุทธิ์ต้องได้รับโทษประหาร ท้าวชัยเสนทราบความจริงแล้วคั่งแค้นจนดำริจะแทงตนเองให้ตาย แต่อำมาตย์นันทิวรรธนะเข้าห้ามไว้ทันและงนางมัทนานั้นได้โสมะทัตศิษญ์เอกของฤษีกาละทรรศินนำพากลับสู่อาศรมเดิม แต่ศุภางค์นั้นแฝงกลับเข้าไปร่วมกับกองทัพแล้วออกต่อสู้กับข้าสึกจนตัวตาย ท้าวชัยเสนจึงรับสั่งให้ประหารท้าวมคธที่ถูกจับมาเป็นเชลยไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนพระนางจัณฑีมเหสีนั้นทรงให้เนรเทศออกนอกพระนคร ด้วยทรงเห็นว่าอันนารีผู้มีใจมุ่งร้ายต่อผู้เป็นสามีก็คงต้องแพ้ภัยตนเอง มิอาจอยู่เป็นสุขได้นานแน่ ฝ่ายนางมัทนานั้นได้ทำพิธีบูชาเทพและวอนขอร้องให้สุเทษณ์จอมเทพช่วยนางด้วย สุเทษณ์นั้นก็ยินดีจะแก้คำสาปและรับนางเป็นมเหสี แต่นางมัทนาก็ยังคงปฏิเสธและว่าอันนารีจะมีสองสามีได้อย่างไร สุเทษณ์เห็นว่านางมัทนายังคงปฏิเสธความรักของตนจึงกริ้วนักสาปส่งให้นางมัทนาเป็นดอกกุหลาบไปตลอดกาล
เมื่อท้าวชัยเสนตามมาถึงในป่า นางปริยัมวะทาที่ตามมาปรนนิบัติดูแลนางมัทนาด้วยก็ทูลเล่าความทั้งสิ้นให้ทรงทราบ ท้าวชัยเสนจึงร้องร่ำให้ด้วยความอาลัยรักแล้วขอให้พระฤษีช่วย โดยใช้มนตราและกล่าวเชิญนางมัทนาให้ยินยอมกลับเข้าไปยังเวียงวังกับตนอีกครั้ง เมื่อพระฤษีทำพิธีแล้ว ท้าวชัยเสนก็รำพันถึงความหลงผิดและความรักที่มีต่อนางมัทนาให้ต้นกุหลาบได้รับรู้ จากนั้นจึงสามารถขุดต้นกุหลาบได้สำเร็จ ท้าวชัยเสนได้นำต้นกุหลาบขึ้นวอทองเพื่อนำกลับไปปลูกในอุทยาน และขอให้ฤษีกาละทรรศินให้พรวิเศษว่ากุหลาบจะยังคงงดงามมิโรยราตราบจนกว่าตัวพระองค์เองจะสิ้นอายุขัย พระฤษีก็อวยพรให้ดังใจ และประสิทธิประสาทพรให้กุหลาบนั้นดำรงอยู่คู่โลกนี้มิมีสูญพันธ์ อีกทั้งยังเป็นไม้ดอกที่กลิ่นอันหอมหวานสามารถช่วยดับทุกข์ในใจคนและดลบันดาลให้จิตใจเบิกบานเป็นสุขได้ ชาย-หญิงเมื่อมีรักก็จักใช้ดอกกุหลาบเป็นสัญญลักษณ์แห่งความรักแท้สืบต่อไป

15 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ
อ่านแล้วมีความสุขมากค่ะ
น่าสงสารนางมัทนาจังเลยค่ะ
นางสาวศิริพร ตาลช่วง ม.6/9 เลขที่ 19ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นส.ศิริวรรณ บุญประสาร ม.6/9 เลขที่ 20ก
ชอบเรื่องราวที่อาจารย์เอามาให้อ่านทุกๆเรื่องเลยคะ
เรื่องสั้นบางเรื่องที่ไม่เคยอ่านพอได้อ่านก็สนุกดีค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นางสาวสุปรียา ปั้นปัญญา ม.6/13 เลขที่ 10ก
อาจารย์ไปหารูปมาจากไหนคะ สวยดี
ประเทศไทยยิ่งเก่ายิ่งดูมีมนต์ขลัง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น.ส.สุปรียา ปั้นปัญญา ม.6/13 เลขที่ 10ก
ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นางสาวปณัติฎา ช้างจวง ชั้นม.6/13 เลขที่ 7.
เป็นความจริงที่โลกของเราเป็นแบบนี้
แต่ก็ดีนะมีวรรณคดีให้เราอ่านเราจะได้รู้ว่าความเป็นจริงคืออะไร

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความรุสึกที่สุเทษณ์มีต่อมัทนามันมะใช่ความรัก !!!

ความรักแบบนั้นมีที่ไหนกัน !!!


ความรักที่ทำให้เราทำร้ายคนที่เรารัก

มันมะใช่ความรัก !!


น่าสงสารมัทนาอ่ะ

ชีวิตเปนนางเอกละครได้อีก !!!

มะได้ทำอะไรผิดซะหน่อย

ทำไมถึงต้องกลายเปนดอกกุหลาบด้วยนะ



นางสาวสุพิชชา ลาจันทึก ม.6/3 เลขที่ 20 ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นางสาว เรณู สีม่วง เลขที่ 20ก ม.6/5
ชอบเรื่องมัทนะพาธามากค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดเรื่องความรักดี ได้รู้จักตำนานของดอกกุหลาบด้วย หนูเคยทำรายงานเรื่องนี้แล้ว...ชอบมากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมต้องขอบคุณสุเทษณ์รึป่าวที่ทำให้โลกนี้มีดอกกุหลาบ ??

ความรักของสุเทษณ์เป็นความรักที่น่ากลัว


ผมคิดว่านะ.....

ความรักที่อยากครอบครองแบบนั้น

ผมรู้สึกว่ามันไม่แมนเอาซะเลย


นายนิพัทธ์ ชุ่มเจริญ ม.6/3 เลขที่ 4ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องมัทนะพาธาอ่านแล้วทำให้เราทราบถึงโทษและประโยชน์ของความรัก เรื่องนี้สอนให้เรารู้จักความรักที่มีให้ซึ่งกันแล้กันไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ หรือคนที่เรารักก็ตาม


นางสาวอรพรรณ บุญเรือง ชั้นม.6/8 เลขที่ 23 ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ

ได้รู้เกี่ยวกับตำนานของดอกกุหลาบ^^


แต่ก็สงสารนางมัทนาจังเลย....

ที่ต้องกลายเป็นดอกกุหลาบตลอดไป


น.ส.ปภัสราภรณ์ แสงรูจี ม.6/6 เลขที่ 13ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กลิ่นอันหอมหวานสามารถช่วยดับทุกข์ในใจคนและดลบันดาลให้จิตใจเบิกบานเป็นสุขได้ ...
..
บางที่ความหอมหวานก้ต้องแลกมาด้วยความเจ็
บปวดเช่นกัน

น.ส.นิชาพร ชะเอมทอง เลขที่16ก ม.6/3

น.ส.สุฑาทิพย์ จันต๊ะเรือง กล่าวว่า...

ได้ดูภาพเก่าๆแล้วค้ดถึงคุณปู่ คุณย่าจังเลย เราน่าจะได้เกิดในสมัยนั้นจะได้พายเรือด้วย

น.ส.สุฑาทิพย์ จันต๊ะเรือง ม.6/6 เลขที่ 20 ก

นส.กรวรา ปริตประทีปวงศ์ ม.6/9 7ข กล่าวว่า...

ชอบเรื่องนี้มากค่ะ อ่านแล้วจินตนาตามเรื่องได้

เคยชมละครโรงเรียนนาฏศิลป์มาทำการแสดงฃ

สนุกมากๆๆ ไม่รู้จะสงสารมัทนาหรือพระเอกดี

นางสาวกรวรา ปริตประทีปวงศ์ ม.6/9 7ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เคยดูการแสดงละครเรื่องมัทนพาธา ประทับใจกับเรื่องนี้มาก ทำให้ได้คติว่าที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์


นางสาวนภาลัย มากโหน ม.6/9 เลขที่ 13ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าสงสารนางมัทนพาธาจงครับ
ให้ข้อคิดด้านความรักดีครับ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์

นายณัฐพล เเสงทอง ม.6/8 เลขที่ 5ก.