วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การยอมรับความแตกต่าง คือหนทางสร้างสามัคคี

ในความต่างมีความเหมือน - ในความเหมือนมีความต่าง

เหมือนหรือแตกต่าง


ความเหมือนที่แตกต่าง
O ความรู้คือการรับรู้คู่ศึกษา อ่านตำราฟังบรรยายมากมายเหลือ
แต่รู้จริงต่างรู้มากอยากคลุมเคลือ กลายเป็นเหยื่อของตำราฆ่าตัวเอง
O ตัวอย่างคือสังคมไทยในวันนี้ แบ่งเป็นสีแบ่งเป็นขั้วอวดตัวเก่ง
ชัยชนะคืออำนาจให้หวาดเกรง ไม่ข่มเหงก็ข่มขู่เหนือผู้แพ้

เหมือนหรือแตกต่าง
O ชัยชนะคือปลายฝันอันสูงส่ง คนลุ่มหลงสร้างรอยทางอย่างแน่วแน่
ชัยชนะสร้างสุขได้ไม่ผันแปร คนอ่อนแอคือฐานรองของสังคม
O ก่อนรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย มีน้ำใจปรองดองสองสุขสม
แพ้เพื่อพรุ่งมุ่งชัยได้ปรารมภ์ หลักแห่งพรหมคือทางสร้างสมดุล


เหมือนหรือแตกต่าง
O ความรู้จริงของผู้ซึ่งถึงสัจจะ ใช่มุ่งแต่เอาชนะแค้นเคืองขุ่น
ก่อนใครแพ้ชนะหรือถือเป็นคุณ ต่างค้ำจุนให้เห็นธรรมนำแนวทาง
O ชนะแพ้นั้นมีแง่ในความเหมือน มีคลาดเคลื่อนมีส่วนคล้ายใช่แตกต่าง
ดูอย่างวัยก็เห็นจริงสิ่งอำพราง คนคือร่างวัยเวียนวัฏสัจธรรม

เหมือนหรือแตกต่าง
O ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่คือใครแน่ หรือรอแพ้เพื่อมุ่งชัยให้น่าขำ
ผู้แพ้ที่แพ้จริงฤาใครจำ ประชาชนตาดำดำแพ้ร่ำไป
O เมื่อชาติไทยคนไทยจวนใกล้แพ้ จะมิแย่กว่าหรือคือเรื่องใหญ่
เจตนาถ้าทำเพื่อเกื้อปวงไทย ต้องตั้งใจยึดพระธรรมนำนาวา

เหมือนหรือแตกต่าง

เหมือนหรือแตกต่าง
O ธรรมแห่งวงศ์กษัตริย์ไทยให้สำนึก น้อมรำลึกบารมีศรีสง่า
ทุกพระองค์เรียนรู้เพื่อเกื้อประชา คือที่มาของชาติไทยในวันนี้
O ถ้าเรียนรู้เพื่อยืนบนผลประโยชน์ จะก่อโทษก่อภัยไปทุกที่
ถ้าเรียนรู้เพื่อพอเพียงเคียงความดี สามัคคีจากความต่างสร้างสมดุล
ศักดิ์สิทธิ์ นามสุวรรณ

เหมือนหรือแตกต่าง
เหมือนหรือแตกต่าง

ในความต่างมีความเหมือน - มีความเหมือนในความต่าง
" คิดกว้าง มองไกล ใฝ่สูง "
ว. วชิรเมธี

49 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากที่ได้อ่าน ทำให้ได้รุ้ว่า ในความต่างมีความเหมือน - ในความเหมือนมีความต่าง เปนอย่างนั้นจริงๆด้วย

แต่อย่าต่างกันมากเลยเหมือนจะวุ่นวายและมีปัญหาสามัคคีกันดีกว่า

นาย ธนาธิป ศิริอารยะพันธ์ ม.6/7 เลขที่ 4ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

วุ่นวายมากเลยกับความแตกต่าง รูปล่างๆ

สามัคคีกันเข้าไว้คนไทยทั้งหลาย

นาย นครินทร์ ปานันท์ ม.6/7 เลขที่3ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความจริงในสังคม มีคนที่เหมือนและแตกต่างกันไป
ทั้งความคิดและฐานะ
แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ความเป็นคน
ที่มีความรู้สึก ความต้องการ ความอยากได้

เราบอกไม่ได้หรอกว่าคนๆหนึ่งมีความแตกต่างกันมากเท่าใด แต่บอกได้ว่าคนเรามีความเป็นคนอยู่เท่าใด

น.ส. สุรีพร ลักษณะโต 17 ก ม. 6/3

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การมีศีลธรรม คุณธรรม ทำให้สังคมเราสูงขึ้นจากจิตใจที่เสื่อมโทรม

แม้ว่าทุกวันนี้ คนเราอาจจะมีอยู่น้อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

น.ส. กมลวรรณ เป้าทอง 9 ข. ม. 6/3

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สังคมในปัจจุบัน ไม่มีความสงบสุข เพราะทุกคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ไม่นึกถึงประโยชน์ส่วนร่วม
ก็เปรียญเสมือน ประเทศไทยที่มีความแตกความสามัคคีในด้านการเมืองอยู่ทุกวันนี้ ทำให้สภาพเศรษฐกิจแย่ลง ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย


นางสาว ณัฐธินี จันทร์เทียน ชั้นม. 6/8 เลขที่ 14 ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ จากการที่ได้อ่านบทความของอาจารย์เข้าใจว่า ในสังคมของเราก็ต้องมีทั้งความเหมือนความแตกต่างถ้าจะให้เหมือนกันคงคงไม่มีในสังคมก็ต้องมีความแตกต่างกันบ้างเราทุกคนก็ต้องปรัยต้วเข้าหาซึ่งกันและกัน
นางสาวเบญจพร จันทนะ ชั้นม.6/11 เลขที่ 13ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากการที่ได้อ่านเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศในปัจจุบันทำให้หนูได้รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองในตอนนี้มากขึ้นและรูปในเว้บอาจารย์สวยมากเลยค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากที่ได้อ่านบทความแล้ว

คิดว่าเราไม่ควรที่จะทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ควรเห็นใจคนอื่นบ้าง

นางสาว จันทร์จิรา โตสารเดช

ชั้นม.6/7 เลขที่11ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

" ในความต่างมีความเหมือน

ในความเหมือนมีความต่าง "

คมมากค่ะ

ชอบรูปอาจารย์ค่ะ

หลายๆรูปสวยดี



นางสาวนภาลัย พันละแหง

เลขที่ 12 ข ชั้น ม. 6/4

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนที่มีความรู้ ต้องรู้จักใช้ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และมีการรู้แพ้ รู้ชนะ มีความพอเพียง

นางสาวมุกรินทร์ เพ็งสุวรรณ ม.6/6 เลขที่ 15ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะอาจารย์

อ่านแล้วให้ข้อคิดดีมากค่ะ

อยากให้ทุกคนเข้ามาอ่านกัน

คมมากเลยะค่ะ

แต่ละบทความ

นางสาว ปนัดดา พวงพิกุล ชั้นม.6/11 เลขที่ 14ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อไหร่ประเทศไทยจะสงบสุขสักที
ทั้งเรื่องการเมือง
เรื่องภาคใต้
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ประสบปัญหา
นี้ด้วย
..............

น.ส.ชุติมณฑน์ ภู่นภาอำพร
ม.6/12 เลขที่ 7ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในหัวข้อนี้ตรงกับเหตุกาณ์ที่เกิดในปัจจุบันมากเลยค่ะ
โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆมากมายทำให้คนไทยแตกความสามัคคีกันจากความคิดที่แตกต่าง แต่ถ้ายอมเปิดใจรับความคิดนั้นๆสถานะการณ์ความขัดแย้งต่างๆอาจดีขึ้นก็เป็นได้
น.ส.ภัสสรสิรี กงแก้ว ม.6/8 เลขที่18ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รักกันไว้เถอะคับคนไทยทั้งหลาย

ทะเลาะกันไปสุดท้ายก็เสียหายกันทุกฝ่ายฉลาดกันมั่งไหม

นาย วรเมธ อยู่แพ ม.6/7 เลขที่3ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้ารักในหลวงจริง

อย่าแตกแยกกันเลยนะค่ะคนไทย

เมื่อวานได้ฟังพระท่านบอกว่า

ที่ทะเลาะกันก็มีอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น

คือ คนไทยด้วยกัน



น.ส. นภาลัย พันละแหง

เลขที่ 12 ข ชั้น ม. 6/4

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความเหมือนก็จะมีความแตกต่างในแต่ละอย่าง การที่ประเทศไทยเกิดความไม่สงบ เกิดจากปัญหาที่คนในสังคมทะเลาะกันเอง อยากให้ทุกคนใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา หันหน้ามาคุยกันดีๆ ไม่ต้องใช้ความรุนแรง ก็จะทำให้ประเทศไทยมีความสงบสุข



น.ส.หัทยา ศรีลาภา
ชั้น ม.6/3 เลขที่ 18 ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่อยากให้คนไทยมีความคิดที่ต่างกันมากนัก ถึงจะต่างกันก็ขอให้มึความสามัคคี ไม่แตกแยกกัน ยิ่งในตอนนี้เรื่องการเมืองก็ไม่จนสิ้นสักที วุ่นวายมาก อยากให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันด้วยดี บ้านเมืองจะได้สงบสุข
น.ส.มัตติกาญ เจริญสุข ม.6/6 เลขที่ 14ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากให้ทุกคนลองเปิดใจ
รับความแตกต่างจากความคิดของตัวเอง
บางทีอาจจะรู้ว่า
ความคิดของตนไม่ได้ถูกเสมอไปก็ได้

นายธนพล มณีแย้ม ม.6/6 เลขที่ 5ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใช่ค๊ะ ตอนนี้บ้านเมืองของเราวุ่นวายมากๆๆ

ความคิดของแต่ล่ะคน มีทั้งเหมือนและแตกต่างกันออกไป โดยที่ทุกคนก็คิดว่าความคิดของตนถูก จึงไม่มีใครยอมใคร อยากให้ทุกคนยอมที่จะฟังเหตุผลของคนอื่นๆบ้างแล้วเปิดใจยอมรับความจิง ประเทศจะได้เจริญซะที อิอิ


น.ส.ศิริอาภรณ์ ธงงาม ม.6/4 เลขที่ 18ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในขณะที่คนไทยในตอนนี้กำลังมีความคิดที่ต่างกันออกไปเป็นหลายฝ่าย แต่สิ่งที่เราทุกคนเหมือนกันก็คือการเป็นคนไทย
ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้เกิดมาจากการที่คนไทยไม่รู้จักทำหน้าที่ของตนเองให้ถูกต้อง ถ้าทุกๆคนทำหน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้องปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เกิด
ถ้านักการเมืองทำหน้าที่อย่างสุจริตการประท้วง ยุบสภา ปฏิวัติ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ถ้าประชาชนรู้จักทำหน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้อง รู้ว่าตนเองประกอบอาชีพอะไรอยู่และตั้งใจทำงาน ทำหน้าที่ของตนเองทุกวัน แล้วจะมีประชาชนที่ไหนว่างไปก่อการชุมนุมประท้วง
ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการที่เราไม่รู้จักทำหน้าที่ของเราให้ดีจนมันส่งผลเสียกระทบต่อประเทศจนถึงระดับครอบครัว บางครั้งคนในครอบครัวก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องการเมือง จนปัญหาการเมืองกลายเป็นปัญหาสังคม
แต่ถ้าคนในครอบครัวรู้จักทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ทำตัวเป็น พ่อที่ดี แม่ที่ดี สามีที่ดี ภรรยาที่ดี ลูกที่ดี ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นหรือเปล่า...มันก็คงไม่เกิด
และปัญหาที่กำลังตามมาก็คือ เด็กนักเรียนมาโรงเรียนก็มักจะจับกลุ่มคุยกันแต่เรื่องการเมืองจนบางครั้งก็แบ่งฝ่ายกัน พูดไม่ถูกใจกันบ้างก็ทะเลาะกัน หรือบางทีก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้จนไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ และก็อีกเช่นกันถ้าเด็กเหล่านี้รู้หน้าที่ว่าที่ตนเองต้องมาโรงเรียนนั้นก็เพื่อมาศึกษาหาความรู้ และคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เราเป็นเด็กไม่ควรเข้าไปยุ่ง ปัญหาในรั้วโรงเรียนเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นเราทุกคนควรรู้หน้าที่ของตนเองและตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ทุกๆอย่างมันก็จะดีขึ้นเอง
นายคุณาวุฒิ วิบูลย์พันธุ์ ชั้นม.6/4 เลขที่ 3ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อาจารย์ครับเมื่อไหร่เค้าจะเลิกกันสักทีล่ะครับ
เหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นทุกวันแล้ว
กลุ้มใจจังเลย

เดชพล 6/5 3ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อความรู้สูงเยี่ยมเท่าเที่ยมฟ้า แต่คุณธรรมต่ำเช่นยอดหญ้านั้นอาจเสกสร้างปัญหาสารพัน เพราะจิตใจอันไร้อายในโลก แม้คุณธรรมสูงเยี่ยมถึงเทียมเมฆ แต่ความรู้ต่ำเฉกเช่นยอดหญ้า ยอมเป็นเหยื่อทรชรจนอุรา เพราะปัญญาอ่อนด้อยน่าน้อยใจ ถ้าความรู้สูงลำคุณธรรมเลิศย่อมประเสริฐกอปรกิจวินิจฉัย ย่อมพัฒนาประชาราษฎร์ทั้งชาติไทยควรฝึกความรู้คุ่คุณธรรม

นางสาวรัตนาภรณ์ เคหนาค ชั้น ม.๖/๘ เลขที่ ๑๙ ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าเราทุกคนยอมรับในความแตกต่างทางความคิด ก็คงจะไม่ต้องทะเลาะกันแบบนี้ และถ้าทุกคนลองใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา ไม่ใช่คิดแต่ว่า ใครจะเป็นอย่างไรเราไม่สน ขอแค่เราชนะก็พอ แล้วลองคิดซิว่า ที่ต้องการชนะน่ะ เพื่อใคร เพื่ออะไร

น.ส.จารุวรรณ จำเนียรพล ม.6/4 เลขที่ 12ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความแตกต่างหรือความเหมือน อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน อยู่ที่ว่าคนๆนั้นใช้เหตุผลและจิตใจตัดสิน ดีแล้วหรือยัง?

นายเขมชาติ ดารามาศ ชั้นม.6/4 เลขที่ 2 ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบภาพของอาจารย์มากค่ะเพราะเป็นภาพที่แสดงถึงความแตกต่างออกมาได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างระหว่างด้านมืดกับด้านสว่าง ทำให้เห็นมุมมองที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งๆที่เป็นภาพแบบเดียวกัน และความแตกต่างระหว่างผู้แพ้กับผู้ชนะ สะท้อนให้เห็นสภาพและสถานะของมนุษย์ทางสังคมได้เป็นอย่างดี
นางสาวปภัสรา รัทนีย์ ชั้น ม.6/4 เลขที่ 13ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การเปลี่ยนแปลง ต้องยอมเสียสละ การผ่าตัดต้องยอมเจ็บตัว ..เพื่อให้ได้สิ่งที่ดี..แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แล้วพวกท่านลองคิดดูสิว่ากว่าจะถึงคำว่า ที่สุด เราต้องสูญเสียไปมากเท่าไรถึงจะพอ
น.ส.สุนิสา จันสารี ม.6/5 เลขที่ 22 ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รูปสวยจังเลยค่ะอาจารย์.....
แค่มองรูปก็เห็นถึงความเหมือนและแตกต่าง
บางครั้งไม่จำเป็นต้องอธิบายออกมา
แค่มองเราก็เข้าใจด้วยความรู้สึก

ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
มองออกมาก็ไม่เหมือนกัน.....^^

น.ส.ชลธิชา สีเหนี่ยง ม.6/4 เลขที่.14ก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในสังคมปัจจุบันนี้คนเรามีความเหมือนและแตกต่างกัน
อาศัยปะปนกันอยู่ เวลาเราจะทำอะไรที่ต้องขอความเห็นจากคนอื่น เราก็ควรจะยอมรับความแตกต่างที่เกิดขึ้น ไม่มีใครคิดเหมือนเราทุกๆอย่าง
**ปล.รูปสวยมาเล๊ยยยย ดูแล้วเพลินดีคร๊ะ

น.ส. ปนัดดา พวงพิกุล ม6/11 เลขที่ 14ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การที่เราจะอยู่ร่วมในประเทศชาติเดียวกันได้นั้นทุกคน จะต้องประกอบด้วยความรักความสามัคคี หากประเทศใดขาดซึ่งความสามัคคีกันแล้ว ประเทศนั้นย่อมหาความสุขไม่ได้ การที่ประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤตินี้ได้อยู่ที่คนไทยทุกคน ถ้า......คุณยอมถอยกันคนละก้าว เหตุการณ์ทุกอย่างคงดีขึ้น คงจะไม่มีความต่างสำหรับเราที่เป็นชาวไทยเหมือนกัน

น.ส.อรชา ฉินสวัสดิ์พันธุ์ ชั้น ม.6/4 เลขที่ 20ข

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความคิดของคนมีหลายความคิด 100 คนก็ 100 ความคิดเห็น ทุกคนน่าจะช่วยกันคิดถึงประเทศไทยให้มากที่สุด


นายชุติพงศ์ ชาวเรือ 3ก ม.6/11

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนไทยเกิดในประเทศเดียวกันแท้ๆทำไมต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกันกับไอ้แค่เพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเองเป็นใหญ่ต่างคนก็ต่างความคิดอยากจะให้เป็นอย่างที่ตนคิดอย่างที่ตนเองอยากทำโดยที่ไม่นึกถึงความเสียหายของประเทศบ้าง หยุดเถอะ หันหน้าคุยกันดีๆ คุยกันให้รู้เรื่องโดยปราศจากอาวุธปรับเข้าหากันโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นหลักผมรู้พูดไปแบบนี้ก็ไม่มีใครทำตามหรอกแต่ผมอยากบอกให้คิดกันบ้างว่าประเทศที่ท่านเกิดคือประเทศไทยแล้วใยมาทะเลาะกันให้ประเทศที่ท่านเกิดล่มจมเล่า


นาย อภิเชษฐ ก้อนคำ ม.6/6 เลขที่ 6ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อไรมันจะจบ มันชักเกินเลยมากเกินไป อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมันสงบเสียที ทำไมไม่หันหน้ามาคุยกัน ช่วยกันแก้ปัญหาในระยะยาวนะ ส่วนคนที่รู้ตัวเองว่าเป็นต้นเหตุก็ไม่ยอมรับ ถ้าไม่คนละครึ่งทางเมื่อไรมันจะจบ...... แต่ก็ไม่ใช่ว่าไมเข้าใจในปัญหาที่เกิดที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่ก็อยากให้สงบลงเสียที

...มีคนเคยกล่าวว่า
พื้นฐานของสิ่งต่างๆในโลกคือวงกลม
มนุษย์เองก็ใช้ชีวิตเช่นวงกลม
เริ่มจากจุดแรกที่เรียกว่าการเกิด
และวนกลับมาที่จุดเดิมที่เรียกว่าความตาย

ที่มาจากหนังสือโซเคนโย

นางสาว เขมณัฏฐ์ ดิสสงค์ ม.6/5 เลขที่ 12(ข)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความเหมือนและความต่างมันอยู่ที่ความคิดของแต่ละคนค่ะ

ภาพเหล่านี้อีกคนอาจมองว่าต่าง แต่อีกคนว่าไม่...

คนเรามองโลกต่างกัน...

แต่สิ่งที่เราเมือนกันคือ ความเป็นมนุษย์
เราย่อมรู้ถึงการกระทำของตนมากกว่าสิ่งอื่นใด

การกระทำของเราเองที่บ่งบอกว่าเราเป็นอะไร...

มนุษย์มิได้ได้เกิดมาเพื่อทำลาย
หากแต่มีความโลภครอบงำ
จึงทำให้เป็นเช่นทุกวันนี้...

นาวสาวณิชารีย์ คำคุณ 16 ข ม.6/5

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ปัจจุบัน โลกของเราต่างมีคนมากมายหลายความคิด มุมมอง ความเห็นก็ล้วนแตกต่างกันอย่างมากมาย และโดยส่วนมากมนุษย์จะยึดถือว่าตัวเองนั้นคิดถูกต้องเป็นเรื่องโดยธรรมชาติ ทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้น ดังนั้นเราจึงควร ทบทวนที่ตัวเองว่าคิดถูกแน่หรือ ? ทำดีแล้วหรือยัง ไม่ก็ลองมองสิ่งต่างๆในอีกแง่มุมหนึ่ง อาจจะได้ความคิดที่แปลกใหม่และดีกว่าเดิมก็เป้นได้



นาย รีนพัฒน์ อ่างสมบูรณ์ เลขที่ 10ข ชั้น ม. 6/4

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มนุษย์หรือสิ่งต่างๆที่อยู่บนโลกย่อมมีความเหมือนหรือแตกต่างอยู่ในตัวของตัวเอง สิ่งพวกนี้ยังอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้แต่เราเป็นมนุษย์ที่มีความคิด มีสติ มีสมอง ทำไมเราต้องมาแบ่งพรรคแบ่งพวกกันทำให้เกิดปัญหาในประเทศ เราคนไทยเรามีพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน อย่ามาทำให้ท่านลำบากใจเรย ใช้สมองคิดว่าทำยังงัยจะแก้ไขปัญหา และที่สำคัญเราควรสามัคคีกัน

น.ส.อทิพาวรรณ สายทองคำ ม.6/6 เลขที่ 20ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความแตกต่าง
ถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน
ก็คงไม่มีคำว่าแตกต่างกันในโลก
ทุกคนย่อมแตกต่าง
แต่เราจะยอมรับความแตกต่างนี้ได้แค่ไหน

นางสาว ธัญสินี พุฒสวัสดิ์ ม.6/11 เลขที่ 14ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากที่อ่านมาต้องขอบอกว่าอาจารย์สุดยอดเลยค่ะ

อาจารย์ใช้การเปรียบเทียบได้ดีมากเลยค่ะ

ทำให้รู้ว่า คนเราต้องมีความสมดุลของชีวิต ซึ่งความสมดุลที่ว่า มันต้องมาจากสิ่งสองสิ่ง

เราต้องมองทั้งสองด้าน ถ้าเราเลือกแค่สิ่งที่เรามองว่ามันโอเคแค่ด้านเดียว มันก้ออาจจะเกิดความเอนเอียงได้

เราต้องใช้ความเหมือนที่แตกต่างอย่างทีอาจารย์ว่านี่แหละค่ะ มาช่วยวิเคราะห์และตัดสินใจด้วย

บางทีมันอาจจะคล้ายคลึงกัน แต่เรื่องทุกเรื่องมันต้องมีหลายด้านที่เรามองไม่ถึงแน่ๆ

สุดยอดเลยค่ะ

ชอบมากก

ชื่อ นางสาว พัชรินทร์ ลีจ้อย ชั้น ม.6/3 เลขที่ 13(ข)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ภาพสวยมากเลย การเปรียบเทียบก็เก๋มากกก
เห็นภาพชัดเจนมากค่ะ
ทุกสิ่งบนโลกล้วนมีความต่างกัน ทั้งความคิด รูปร่าง ฐานะ และอีกมากมาย ความต่างสามารถทำให้ลงตัวได้และก็ให้หักล้างกันได้ แล้วแต่ว่าใครจะเลือกอันไหน เลือกสิ่งดีก็ดีไป เลือกไม่ดีก้คงแย่ T T

นางสาวเนตรทราย เทียมสัมฤทธิ์ 6/4 13ข.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่จะเหมือนกัน
หรือแตกต่างกันไปซะทุกอย่างหรอก

บางอย่างอาจจะ เหมือน
บางอย่างอาจจะ ต่าง

"เพียงแต่เราพร้อมที่จะยอมรับความต่างด้วยความเข้าใจว่า ความคิด ความรู้สึกของคนเรามันไม่เหมือนกัน "

เราไม่ได้ฝากชีวิตไว้กับความเหมือนหรือความต่าง แต่มันขึ้นอยู่กับความเข้าใจที่มีต่อกันมากกว่า



น.ส.อัญชลี มีมา ม.6/8 เลขที่ 20ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไทยแตกแยกเพราะความเห็นแก่ตัวของคนที่อยากมี อยากได้ ทำให้วุ่นวาย สูญเสีย
เราคนรุ่นหลังต้องมีคสามสามัคคีกัน
นางสาวพรนพา ยิ้มยวน ม.6/10 เลขที่ 13 ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แบ่งสี แบ่งพวก แบ่งพรรค

ผู้ชนะใครกัน คือใครแน่

ปรองดอง สามัคคีกันดีกว่า

คือชัยชนะของไทยที่แท้จริง

นางสาวมัลณิตา เริงชัยภูมิ ม.6/10 เลขที่ 14ก

ปัทมา พุ่มลำเจียก กล่าวว่า...

"สามัคคี"

คำเดียวที่จะทำให้ประเทศชาติเจริญ
คนไทยไม่รักกันแล้วชาติไทยจะเป็นชาติไทยได้อย่างไร
คิดกันบ้างไหมค่ะ...



นางสาวปัทมา พุ่มลำเจียก เลขที่ 17ข.
ม..6/10

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความเหมือนบนความแตกต่าง .. ถ้าเรายอมรับและยอมทำความเข้าใจซึ่งกันและกันซักนิด ยอมที่จะเปลี่ยนมุมที่ยืน มุมที่มองดูบ้าง การทะเลาะเบาะแว้งจะไม่เกิดขึ้น

น.ส.สวาติวลัย พวงลำเจียก ม.6/4 เลขที่17ก.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บนความเหมือนย่อมมีความแตกต่าง และในขณะเดียวกันบนความแตกต่างก็มีความเหมือน เราทุกคนเกิดอยู่บนแผ่นดินเดียวกันมีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกันแล้วทำไมคนไทยต้องทะเลาะกัน จะไม่มีใครทำอะไรเราได้ถ้าเราสามัคคีกัน..
"รักกันไว้เถิดเราเกิดร่วมแดนไทย"

ชื่อ นางสาวนิภาพร รอดพงษ์ ชั้น ม.6/10 เลขที่ 12ก.

นส.พลอยไพลิน บัวรักษ์ 18ก 6/3 กล่าวว่า...

ทุกสิ่งมีความแตกต่าง หลากหลาย
ผู้แพ้ ผู้ชนะ คนถูก คนผิด คนจน คนรวย

*หากพินิจให้ดี จะพบว่ามีความเหมือนในความต่าง
แฝงกลวิธีที่แตกต่าง แต่จุดประสงค์เดียวกัน
ไทยเรามีความแตกแยก เพราะการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง
แต่ทุกฝ่ายมีความต้องการแค่ขอให้ประเทศไทยดำรงอยู่อย่างมีความสุข

*มาสามัคคี ความแตกต่าง ให้สมดุล...กัน อิอิ
^ ^

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากภาพที่อาจารย์ยกตัวอย่างมา
รู้สึกได้ทันทีเลยค่ะถึงความต่างที่มีความเหมือนกันและในความเหมือนก็มีความต่าง
ลองคิดดูดีๆในความต่างกันนี้แท้ที่จริงแล้วก็คือสิ่งเดียวกัน
มีจุดมุ่งหมายแบบเดียวกัน
แต่ที่มันต่างกันอาจเพราะพวกเขาคิดกันคนละแบบ
แต่ละคนก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ทำอยู่นั้นถูกต้องแล้ว ดีแล้ว
ไม่เปิดใจมองอีกมุมหนึ่ง
ยกตัวอย่างอย่างเช่นประเทศไทยเราที่มีการแยกสีแยกพรรค
ทั้งๆที่เป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น
นั่นเพราะพวกเขาคิดในเชิงตรงข้ามกัน จึงเกิดการขัดแย้ง แตกความสามัคคี
อยากให้คนไทยในตอนนี้ ลองเปิดใจ แม้ขัดแย้งกันแต่สุดท้ายก็คือคนไทยด้วยกันยังไงก็ยืนอยู่แผ่นดินเดียวกันอยู่ดี

ลองเอาความสามัคคีที่ใช้กันคนละแบบ มารวมกันดูสิคะ >____< v แล้วจะรู้ว่าในความต่างนั้น มีความเหมือนกันอย่างไร

นางสาวธิดารัตน์ โพธิลักษณ์ เลขที่ 15ข. ม.6/10

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าคนไทยปัจจุบันนี้ลองมองความคิดของฝ่ายตรงข้าม
และยอมรับซึ่งกันและกัน
ก็คงจะไม่เกิดความแตกแยก
ทำไมล่ะ..ทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกันเองแท้ๆ
อย่างน้อยก็ใช้แผ่นดินร่วมกัน
แต่กลับตอบแทนคุณของแผ่นดินเช่นนี้เองหรือ

ลองหันมามองมุมอีกมุมสิคะแล้วยอมรับมัน นั่นแหละคือยารักษาปัญหาประเทศ

นางสาว ทิพวรรณ ศรีสวัสดิ์ เลขที่ 8ก. ม.6/10

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะแยกตัวแยกพรรคให้ต่างกันทำไม
ทั้งๆที่มีความต้องการที่จะให้ประเทศสงบสุขเหมือนกันแท้ๆ
ก็ไอ้การแยกสีกันนี่แหละที่จะให้ประเทศแย่กว่าเดิม
หันมาสามัคคีกันเถอะนะคะ ยอมรับในความขัดแย้ง แล้วความสงบก็จะมาเองอย่างที่พวกคุณต้องการ

นางสาวนันธิยา ศรีวรพจน์ เลขที่ 11ก. ม.6/10

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากที่ได้อ่านบทความแล้วทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าเหมือนกันแต่บางครั้งนั้นอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง ก็เหมือนกับความคิดของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกันออกไป คนเราจะมีความสุขได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ชัยชนะ แตขึ้นอยู่กับการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและการปรับตัวเข้าหากันมากกว่า

นางสาวอรพิน วาชัยศรี ชั้น ม.6/10 เลขที่ 20ก